ลูทีน เป็นรงควัตถุสีเหลืองส้มชนิดหนึ่ง พบมากในผักคะน้า, ผงสกัดจากต้นอ่อนข้าวบาร์เลย์ (หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ “Aojiru” ซึ่งเป็นผงสำหรับชงเครื่องดื่มสีเขียว), ผักโขม, และผักใบเขียวและเหลืองต่างๆ และยังเป็นส่วนประกอบในดวงตาและผิวหนังของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พบมากในบริเวณ Macular (จุดภาพชัดหรือจุดรวมภาพของจอประสาทตา) ของดวงตา แต่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง
ซีแซนทีน เป็นรงควัตถุสีเหลืองส้มที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวเฉกเช่นเดียวกับลูทีน พบมากในข้าวโพด, ลูกพลับ, ชาเขียว, ไข่แดง, ไขมันสัตว์ และตับ นอกจากนี้ยังพบในบริเวณ Macular ของดวงตาเช่นเดียวกับลูทีน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยในปัจจุบันพบว่ามีซีแซนทีนในปริมาณเข้มข้นที่สุดอยู่ในบริเวณศูนย์กลางของ Macular
ไลโคปีน ถูกกล่าวว่าเป็นสารที่ถูกสร้างขึ้นในผลมะเขือเทศเพื่อปกป้องตัวเองจากแสงอาทิตย์ในระหว่างที่กำลังสุกงอมโดยการดูดซึมแสงอาทิตย์ ชาวยุโรปโบราณกล่าวไว้ว่า “เมื่อมะเขือเทศเปลี่ยนเป็นสีแดง ใบหน้าของคุณหมอก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว” (หมายถึง การรับประทานมะเขือเทศวันละ 1 ลูก จะทำให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์) ในปัจจุบัน มีผลงานวิจัยหลายชิ้นที่ทำให้เราเชื่อได้ว่า ไลโคปีน เป็นส่วนประกอบที่มีประโยชน์ ไลโคปีนจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเมื่อรับประทานอาหารแปรรูปได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับการดูดซึมสารอาหารจากการรับประทานผักสด เนื่องจากธรรมชาติของไลโคปีน เป็นสารที่สามารถละลายได้ในไขมัน เมื่อมีการปรุงอาหารที่มีไลโคปีนด้วยน้ำมัน จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมไลโคปีนเข้าสู่ร่างกาย
เบต้า-แคโรทีน เป็นรงควัตถุสีเหลืองส้มที่พบได้ในแครอทและฟักทอง เป็นที่รู้จักดีในเรื่องของความปลอดภัยต่อร่างกายมนุษย์ และถูกใช้เป็นสีผสมอาหาร, เครื่องดื่มและเครื่องสำอางมาตั้งแต่โบราณกาล แคโรทีน จะถูกเปลี่ยนรูปเป็นวิตามินเอที่ร่างกายต้องการ เนื่องจากวิตามินเอมีความสำคัญต่อร่างกาย ผู้เชี่ยวชาญจึงได้ทำการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับแคโรทีนมาเป็นเวลาหลายปี และพบว่าก่อนที่จะถูกเปลี่ยนรูปเป็นวิตามินเอ แคโรทีนเป็นพฤกษเคมีที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม
แอนโทไซยานิน เป็นรงควัตถุสีน้ำเงิน-ม่วง ที่พบได้ในแบล็คเคอร์แรนท์และบิลเบอร์รี่ ซึ่งถือเป็นโพลีฟีนอลชนิดนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของพฤกษเคมีทั้งหมด ผลงานวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของมัน มีจุดเริ่มต้นมาจากเรื่องราวในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีนักบินชาวอังกฤษผู้หนึ่งกล่าวอ้างว่าเขามีทัศนวิสัยที่ดีแม้ในเวลากลางคืน อันเนื่องมาจากความรักในการรับประทานแยมบลูเบอร์รี่ของเขา
ช่วยในการเสริมความยืดหยุ่น สามารถพบได้ในผิวหนัง เส้นผม กระดูก เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด
เราผลิตพลังงานที่จำเป็นในการดำเนินกิจกรรมประจำวันจากโปรตีน, คาร์โบไฮเดรตและไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหารหลัก 3 ชนิดที่มีอยู่ในอาหารที่เรารับประทานทุกวัน วิตามินกลุ่มบี สามารถละลายในน้ำได้ และทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ในกระบวนสร้างพลังงานจึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการรักษาสุขภาพโดยรวม
วิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีบทบาทเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เป็นที่เชื่อกันว่าการรับประทานวิตามินเอ พร้อมกับอาหารที่มีไขมัน จะช่วยให้การดูดซึมวิตามินเอได้ดีขึ้น